เมื่อวันที่ 18
มกราคม 2568 คณะศิลปกรรมศาสตร์
ได้จัดโครงการสร้างภาพลักษณ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อส่งเสริมการขายของชุมชนรอบถนนสามเสน
กรุงเทพมหานคร ณ
ชุมชนวัดนักบุญฟรังซิสเซเวียร์
(ชุมชนบ้านญวณสามเสน)
โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนผ่านการฝึกอบรมและถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการทำผลิตภัณฑ์เครื่องหอม
เช่น บาล์มสมุนไพร พิมเสนน้ำ
และน้ำมันเหลือง
ซึ่งได้รับการบรรยายและแนะนำอย่างละเอียดโดย
อาจารย์นวภรณ์ ศรีสราญกุลวงศ์
อาจารย์ประจำสาขาวิชาการออกแบบนิเทศศิลป์
คณะศิลปกรรมศาสตร์
ที่มุ่งหวังให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้กลายเป็นเอกลักษณ์ของชุมชนและเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับคนในพื้นที่
กิจกรรมครั้งนี้มีการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการใช้สมุนไพร
ขั้นตอนและวิธีการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานและดึงดูดใจผู้บริโภค
ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างทักษะให้กับผู้เข้าร่วมโครงการเท่านั้น
แต่ยังสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
(SDGs) ในสามประการสำคัญ ได้แก่
เป้าหมายที่ 1 การยุติความยากจน
กิจกรรมได้มุ่งเน้นการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างรายได้และส่งเสริมให้ครัวเรือนในชุมชนมีความมั่นคงทางการเงิน
ซึ่งถือเป็นวิธีการลดปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืนในระยะยาว
เป้าหมายที่ 8
การส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
โครงการได้สนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์และสามารถดึงดูดใจนักท่องเที่ยวและผู้บริโภคทั่วไป
เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิตในชุมชน
และเป้าหมายที่ 10 การลดความเหลื่อมล้ำ
ได้มีการเปิดโอกาสให้สมาชิกทุกคนในชุมชนมีส่วนร่วมในโครงการอย่างเท่าเทียม
โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง
เพื่อให้พวกเขาสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปต่อยอดและพัฒนาศักยภาพของตนเองได้
นอกจากสามเป้าหมายข้างต้นแล้ว
โครงการยังมีความเกี่ยวข้องกับเป้าหมาย
SDGs อื่น ๆ ดังนี้ เป้าหมายที่ 4
การสร้างหลักประกันว่าการศึกษาที่เท่าเทียมและครอบคลุม
รวมถึงส่งเสริมโอกาสการเรียนรู้ตลอดชีวิต
โดยกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ที่สามารถนำไปต่อยอดได้ในอนาคต
และเป้าหมายที่ 12
การสร้างหลักประกันให้มีรูปแบบการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน
โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องหอมจากสมุนไพร
ช่วยลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่ยั่งยืนและส่งเสริมการใช้วัตถุดิบธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ
โครงการดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของคณะศิลปกรรมศาสตร์ในการนำความรู้และทักษะมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาชุมชนในด้านเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิต
พร้อมทั้งส่งเสริมความยั่งยืนและความเท่าเทียมในสังคมอย่างแท้จริง